1. ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ |
หนี่งในวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและมักจะได้ผลเสมอ คือการ Restart เครื่อง หรือเปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่เพราะระบบปฏิบัติการ Windows เมื่อทำงานได้สักระยะหนึ่งมันอาจจะสับสนอะไรบ้างอย่างในตัวของมันเองทำให้มันแสดงพฤติกรรมแปลกที่ทำให้ผู้ใช้งานเกิดปัญหาได้ |
2. เปิดเข้าไปดูที่ Action Center (เฉพาะ Windows 7 เท่านั้น) |
ผู้พัฒนา Windows คงทราบดีว่า Windows นั้นมีปัญหามากมายที่แก้ไขเท่าไหร่ก็ไม่จบ ดังนั้นใน Windows 7ซึ่งเป็น Windows เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ทางผู้ัพัฒนาจึงได้คิดค้นระบบที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จัดการกับปัญหาของ Windows ได้ง่ายขึ้นระบบที่ว่านี้ก็คือ ActionCenter ที่มีอยู่ใน Windows 7 นั่นเอง |
|
ในหน้าต่างของ Action Center ให้คุณลองคลิกที่ปุ่ม Troubleshooting เมื่อคลิกแล้วระบบจะทำการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่ให้อัตโนมัติและถ้าหากเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อัตโนมัติระบบก็จะขึ้นข้อความแนะนำ เพื่อให้คุณทราบว่าควรจะทำอะไรต่อไป |
3. ลองอัพเดต Windows ดู |
ปัญหาที่คุณเจอ อาจจะเป็นปัญหาที่ไมโครซอฟต์บริษัทผู้ผลิต Windows ทราบอยู่แล้ว และได้สร้างตัวแก้ไขมาให้คุณไว้เรียบร้อยแล้วหน้าที่ของคุณคือคุณจะต้องเอาตัวแก้ไขเหล่านั้นมาติดตั้งใน Windows ของคุณเพื่อตัดตอนปัญหาต่างๆที่คุณเจอ ระบบที่จะช่วยให้คุณอัพเดต Windows ได้อย่างง่ายๆ มีชื่อว่า Microsoft Windows Update ซึ่งในกระบวนการอัพเดตคุณจำเป็นจะต้องต่ออินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วยเพื่อให้ระบบอัพเดตสามารถดาวโหลดตัวแก้ไขต่างๆจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟต์ได้ |
|
4. ลงไดรเวอร์ใหม่หนึ่ง |
ในวิธีที่จัดการกับปัญหาเรื่องไดร์เวอร์และฮาร์ดแวร์ได้ชะงักคือการติดตั้งไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดหรือถ้าไม่สามารถหาไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดได้ ก็ได้เอาไดรเวอร์ตัวเดิมนั่นแหล่ะติดตั้งกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งนึงเพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาของคุณได้อย่างได้ผลเลยทีเดียว |
|
วิธีการลงไดรเวอร์ตัวใหม่คุณต้องเข้าไปที่ Device Manager ก่อนแล้วทำคลิกขวาเลือกฮาร์ดแวร์ที่คุณต้องการจะจัดการแก้ปัญหาจากนั้นก็ให้คลิกเลือก Update Driver สำหรับการติดตั้งไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดหรือคลิกเลือกUninstall เพื่อลบไดรเวอร์ที่ค้างอยู่ในระบบแล้วค่อยเอาไดร์เวอร์ที่คุณมีติดตั้งเข้า ไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง |
5. ทำความสะอาดเครื่อง |
ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นด้วย Disk Cleanupหนึ่ง ในตัวสร้างปัญหาให้กับ Windows คือการที่มีไฟล์ขยะรกเต็มเครื่องมากเิกินไป ดังนั้นการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นทิ้งเสียบ้างจะช่วยลดและป้องกันปัญหาได้ ซึ่งใน Windows ก็มีเครื่องมือสำหรับช่วยลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจากเครื่องได้อย่างอัตโนมัติเครื่องมือที่ว่าก็คือ Disk Cleanup นั่นเอง |
|
6. ใช้โปรแกรมตรวจสอบไฟล์ระบบ |
หนึ่งในอาการที่สร้างปัญหาน่าปวดหัวใน Windows คืออาการไฟล์ระบบเสีย แต่โชคดีที่ Windows มีตัวสำหรับแก้ไขและซ่อมไฟล์ระบบมาให้ด้วยแต่โปรแกรมนี้จะต้องใช้งานในแบบ Command line เท่านั้น วิธีใช้ก็แค่เปิดหน้าต่าง Command โดยพิมพ์คำสั่ง cmd ลงในช่อง Run แล้วตามด้วยคำสั่ง "SFC /SCANNOW" (คำสั่งไม่ต้องมีเครื่องหมาย " นะครับ) สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Vista และ Windows 7 ต้องเลือกเปิดหน้าต่าางCommand ด้วนสิทธิแบบ Administrator ก่อนถึงใช้คำสั่งนี้ได้ |
|
7. ลงโปรแกรมใหม่ |
ถ้าปัญหาใน Windows ของคุณเกี่ยวข้องกับโปรแกรมที่คุณติดตั้งเข้าไปล่ะก็มีวิธีหนึ่งที่สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างชะงัก คือการลบและติดตั้งโปรแกรมใหม่ วิธีทำก็ไม่ยากแค่ Uninstall โปรแกรมออกก่อน โดยคลิก Uninstallในเมนูของโปรแกรม หรือใช้ Add/Remove Programs ใน Control Panel ก็ได้ หลังจากลบโปรแกรมทิ้งไปแล้วก็ให้เริ่มติดตั้งโปรแกรมใหม่อีกครั้ง เท่านั้นปัญหาของโปรแกรมของคุณน่าจะได้รับการแก้ไขและตัวโปรแกรมก็จะกลับมาใช้งานได้ดีดังเดิม |
|
8. เข้าเว็บ Microsoft Fix-it |
สำหรับปัญหาที่แก้ไม่ได้ง่ายๆ อย่างหน้าต่าง error ที่ขึ้นโค้ดประหลาดๆ (เช่น 0×80072EE4) คุณสามารถหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยเข้าไปขอความช่วยเหลือจากไมโครซอฟต์ที่เว็บ Microsoft Fix-it (http://support.microsoft.com/gp/cp_fixit_main) ในหน้าเว็บไซต์คุณสามารถเอาโค้ด error ไปค้นหาวิธีแก้ไขได้หรือถ้าหมดหนทางจริง ๆ คุณก็ยังสามารถติดต่อกับไมโครซอฟต์เพื่อคำแนะนำได้อีกด้วย |
|
9. ค้นหาความช่วยเหลือจาก Google |
เมื่อไมโครซอฟต์เริ่มพึ่งไม่ได้ เราคงต้องหันมาพึ่งตัวเองด้วยบริการค้นหาทันใจแบบทุกซอกทุกมุมจาก Googleให้คุณลองใช้คำค้นที่สั้นและเฉพาะเจาะจงกับปัญหาที่คุณเจอ ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้คำค้นเป็นภาษาอังกฤษจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มากกว่า แต่ถ้าหากคุณเป็นนักค้นหาที่ไม่ค่อยเก่งและยังไม่เก่งภาษาอังกฤษอีกด้วย เราแนะนำให้ข้ามวิธีนี้ไปเลย |
10. แก้ไม่ได้ จนปัญญา ให้ลองลง Windows ใหม่ดู |
วิธีสุดคลาสสิกที่แก้ไขปัญหาได้เกือบทุกอย่างคือการติดตั้ง Windows ใหม่ สำหรับวิธีนี้คุณยังมีทางให้เลือก 3ทางคือ
|
- ลง Windows แบบแก้ปัญหาตัวเดิม(หรือที่เรียกว่าลงแบบ Repair)
|
- ลง Windows แบบทับตัวเดิม (หรือที่เรียกว่าลงแบบ Upgrade) ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้กับแผ่นติดตั้ง Windows บางแบบบางรุ่นเท่านั้น ถ้าใส่แผ่น Windows เข้าไปในเครื่องของคุณในขณะใช้ Windows ตัวเดิมอยู่ แล้วตัวติดตั้งมันขึ้นOption ให้เลือกแบบ Upgrade แสดงว่าใช้วิธีนี้ได้ |
- ลง Windows แบบล้างเครื่องลงใหม่ วิธีนี้ค่อนข้างจะโหดร้าย ยุ่งยากและอาจทำให้ข้อมูลในเครื่องของคุณหายได้ (ถ้าคุณไม่ได้สำรองข้อมูลเอาไว้ก่อน) แต่ก็จัดเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นที่สุดใครลองวิธีไหนแล้วไม่หายให้ลองวิธีนี้ดูรับประกันผลว่า Windows ของคุณจะกลับมาโลดเล่นเหมือนตอนซื้อเครื่องมาใหม่แน่นอน
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น